5 ขั้นตอน สร้าง “เครดิตดี”
ให้กู้ซื้อบ้านง่าย ยังไงก็ผ่านฉลุย

เครดิตทางการเงินที่ดี ย่อมช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้ซื้อบ้านให้เป็นไปอย่างราบรื่นและผ่านฉลุย
แต่ถ้าใครกำลังกังวลกับเครดิตของตัวเองแล้วนั้น วางใจได้เลย เพราะเครดิต…สร้างได้!

อยากซื้อบ้านสักหลังหรือซื้อคอนโดสักยูนิต นอกจากการเลือกบ้านหรือคอนโดที่ถูกใจและตอบโจทย์ชีวิตได้เป็นอย่างดีแล้ว เรื่องการกู้ซื้อบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน แต่การจะกู้ซื้อบ้านให้ง่ายอย่างใจหวังนั้น แน่นอนว่าผู้กู้ต้องมีเครดิตทางการเงินที่ดี หรือก็คือมีความน่าเชื่อทางการเงินมากพอสำหรับธนาคารหรือสถาบันการเงิน

เมื่อมีเครดิตทางการเงินที่ดีแล้ว การกู้สินเชื่อต่างๆ หรือแม้แต่การทำธุรกรรมทางการเงิน ก็มีแต่ราบรื่นและเป็นไปอย่างง่ายดาย แถมต้องเรียกว่ามีชัยไปกว่าครึ่งยิ่งกว่าคนทั่วไปหรือผู้ที่มีประวัติทางการเงินไม่ดี

ส่วนวิธีการสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีนั้น ก็ไม่ยุ่งยากวุ่นวายอย่างที่หลายคนกลัว แค่ลุย 5 สเต็ปง่ายๆ ตั้งแต่การเช็กประวัติในเครดิตบูโร เคลียร์หนี้ จ่ายบิลให้ตรงเวลา ไม่เพิ่มจำนวนสินเชื่อใหม่ ไปจนถึงการหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินมาเป็นตัวช่วยพิเศษ

Step 1: ตรวจข้อมูลเครดิตตัวเองด่วนๆ (และเสมอๆ!)

ค่าใช้จ่ายซื้อบ้าน 2566

หนึ่งในสิ่งที่เป็นตัวตัดสินว่าสินเชื่อของคุณจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ และอัตราที่เหมาะสมจะเป็นเท่าไหร่ ก็คือประวัติเครดิตและคะแนนเครดิต (Credit Scoring) ในเครดิตบูโร หรือก็คือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (National Credit Bureau Co.,Ltd. : NCB) ที่บ่งบอกว่าคุณเป็นลูกหนี้ชั้นดีแค่ไหน มีประวัติการชำระหนี้ ชำระสินเชื่อ หรือแม้แต่ค่าบัตรเครดิตตรงเวลาหรือไม่ รวมทั้งมีสถานะบัญชี ตลอดจนวินัยทางการเงินเป็นอย่างไร การตรวจสอบเครดิตของตัวเองจึงเป็นสเต็ปแรกที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้ยังควรต้องตรวจเช็กอยู่เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อมูลบ่งชี้ตัวตนและข้อมูลทางการเงินเป็นไปอย่างถูกต้องและป้องกันข้อมูลผิดพลาดที่อาจทำให้เสียเครดิตโดยไม่รู้ตัว

จะเช็กประวัติเครดิตได้อย่างไร?

สำหรับการตรวจสอบประวัติเครดิตส่วนบุคคล ทำได้ง่ายๆ เพียงยื่นคำขอตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิต (Credit Report) ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร, เครดิตบูโรคาเฟ่, บูโรแล็บ (Bureau Lab) หรือตู้คีออสสำหรับตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง รวมทั้งยังสามารถยื่นคำขอกับทางธนาคารได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ธนาคารโดยตรง ทางแอปพลิเคชัน หรือที่ตู้ ATM

แอบกระซิบว่า ถ้าอยากตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิตแบบฟรีๆ ไม่เสียค่าธรรมเนียมแล้วล่ะก็ สามารถยื่นขอรายงานข้อมูลเครดิตแบบสรุปที่ ที่ทำการไปรษณีย์ เคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ (Government Smart Kiosk) แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และตู้คีออสสำหรับตรวจสอบเครดิตบูโรด้วยตนเอง

แย่แล้ว! เจอข้อมูลเครดิตผิด ทำไงดี?

หากเจอข้อมูลเครดิตที่ไม่ถูกต้องเมื่อไหร่ สามารถยื่นคำขอตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลเครดิตของคุณได้เลยกับทางเครดิตบูโรหรือแม้แต่สถาบันการเงินที่คุณเป็นลูกค้าอยู่ หากสถาบันการเงินตรวจสอบแล้วพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้องจริงๆ จะส่งข้อมูลที่ถูกต้องให้กับเครดิตบูโรเพื่อแก้ไข พร้อมแจ้งผลภายใน 30 วัน

Step 2: เคลียร์หนี้ รักษายอดผ่อนต่อรายได้ มีแต่ได้กับได้

credit card-credit score check

ยอดหนี้เป็นตัวบ่งบอกภาระทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ที่จะกู้ในอนาคตได้ สำหรับการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร จะคิดเป็นยอดผ่อนต่อรายได้ หรือก็คือสัดส่วนเงินผ่อนต่อรายได้ต่อเดือน โดยเกณฑ์มาตรฐานนั้นมักอยู่ที่ 50% – 70% ของรายได้

สิ่งสำคัญคือยิ่งยอดผ่อนต่อรายได้สูงเกินเกณฑ์ ยิ่งมีโอกาสถูกปฏิเสธสินเชื่อยิ่งขึ้นเช่นกัน เพราะนั่นอาจหมายถึงมีความเป็นไปได้ที่สภาพคล่องทางการเงินจะต่ำและมีความสามารถในการชำระหนี้ไม่มาก

การลดภาระหนี้หรือภาระการผ่อนเดิมให้ได้มากที่สุด เช่น ค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ และสินเชื่อส่วนบุคคล พร้อมกับพยายามไม่สร้างหนี้เพิ่มเติมก่อนการขอสินเชื่อจึงช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อบ้านได้ นอกจากนี้อาจใช้วิธีเพิ่มรายได้ เพื่อรักษายอดผ่อนต่อรายได้ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน 50% ได้เช่นกัน

Step 3: จ่ายหนี้ตรงเวลา ไม่เสียคะแนนเครดิต

credit card-credit score check

ผู้กู้ที่ไม่มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน แต่จ่ายหนี้หรือจ่ายบิลต่างๆ ล่าช้าบ่อยๆ ไม่ว่ายอดเงินจะน้อยแค่ไหน ก็ทำให้เสียคะแนนเครดิตและความน่าเชื่อถือทางการเงินกับทางธนาคารได้! เพราะนั่นอาจบ่งบอกถึงปัญหาด้านความรับผิดชอบทางการเงิน

ส่วนใครที่ชำระหนี้ตรงเวลาเสมอ แต่อยู่ๆ กลับเริ่มชำระช้าลง ก็อาจบ่งบอกถึงปัญหาทางการเงินได้เช่นกัน ดังนั้นทางที่ดี ชำระบิลและหนี้ต่างๆ ให้ตรงเวลาไว้เสมอๆ ก็จะช่วยรักษาเครดิตทางการเงินไว้ได้

ลืมเก่งไม่เป็นไร ตัดบัญชีอัตโนมัติไปเลย

ใครเป็นสายขี้ลืม ลืมจ่ายบิลนู้นบิลนี้บ่อยๆ จดไว้แค่ไหน ตั้งเตือนอย่างไร ก็ยังลืมจนได้ ลองหันมาใช้วิธีเลือกชำระบิลผ่านการตัดบัญชีออมทรัพย์อัตโนมัติเข้ามาช่วย เพียงเท่านี้ก็ตัดปัญหาการลืมชำระได้ง่ายๆ ไม่ต้องห่วงว่าเครดิตทางการเงินจะไม่ดีแล้ว

Step 4: หยุด! หยุดเพิ่มจำนวนสินเชื่อใหม่

shopping

การมีสินเชื่อจำนวนมากอาจส่งผลเสียต่อเครดิตทางการเงินได้ โดยธนาคารมักจะจำกัดการมีสินเชื่อไว้ที่ 3 – 5 สินเชื่อต่อบุคคล ดังนั้นจึงไม่ควรเพิ่มจำนวนสินเชื่อต่างๆ ก่อนการกู้ซื้อบ้าน รวมทั้งอาจใช้วิธีการยุบสินเชื่อหลายก้อนให้เป็นก้อนเดียวกันเป็นก้อนเดียวด้วยการ “Refinance” เข้ามาช่วย

นอกจากนี้การสมัครบัตรเครดิตไว้เยอะๆ หรือสมัครบัตรเครดิตใหม่เรื่อยๆ ก็มีผลต่อการพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อบ้านได้เช่นกัน เพราะหากมีบัตรเครดิตใบไหนที่ไม่ผ่านการอนุมัติ ก็จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางการเงินของผู้กู้ด้วยนั่นเอง

Step 5: ตัวช่วยพิเศษต้องมา! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเลยดีกว่า

ซื้อบ้าน-กู้บ้าน-Sansirihomefinancialplanner-ที่ปรึกษาแสนสิริ

ใครอยากซื้อบ้าน แต่เริ่มรู้สึกจัดการเครดิตทางการเงินของตัวเองไม่ได้ หรือมีเครดิตทางการเงินไม่ดี แต่ก็เริ่มแก้ไม่ถูก รวมทั้งเตรียมกู้ซื้อบ้าน แต่วางแผนทางการเงินหรือคุยกับธนาคารแล้วงงไปหมด อาจเลือกใช้ตัวช่วยพิเศษอย่างการขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่มีความเชี่ยวชาญสูงในเรื่องการจัดการและการวางแผนทางการเงิน นอกจากจะช่วยแก้ไขเครดิตการเงินได้อย่างตรงจุดและไม่เสียเวลาแล้ว ยังช่วยให้การขอสินเชื่อลื่นไหลยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

ที่ปรึกษา…ต้องทั้งเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ

สิ่งสำคัญที่ต้องไม่ลืมนั้น คือการเลือกที่ปรึกษาทางการเงินที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ เช่นเดียวกับแสนสิริเอง ที่มีบริการ Sansiri Home Financial Planner คอยดูแลคุณตั้งแต่การวางแผนทางการเงินเพื่อกู้ซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการออมเงินล่วงหน้า หรือแม้แต่การสำรองเงินสำหรับค่าใช้จ่ายก่อนกู้และการโอนบ้าน รวมทั้งยังช่วยแนะนำธนาคารสำหรับยื่นขอสินเชื่อ ดูแลเรื่องการเตรียมเอกสารเพื่อกู้ซื้อบ้าน ตลอดจนช่วยประสานงานและติดตามผลกับทางธนาคารอีกด้วย เพื่อให้คุณกู้ซื้อบ้านได้ง่ายๆ อย่างไร้กังวล

เพียงแค่ 5 เทคนิคง่ายๆ นี้ ทั้งการตรวจเช็กเครดิตในเครดิตบูโรผ่านการยื่นขอรายงานเครดิต การจัดการลดหนี้ การชำระหนี้และบิลต่างๆ ให้ตรงเวลา การจำกัดจำนวนสินเชื่อใหม่ และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงิน ก็มั่นใจได้แล้วว่าจะช่วยสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีที่ช่วยให้คุณมีความน่าเชื่อถือทางการเงินมากยิ่งขึ้นได้

เมื่อเครดิตทางการเงินดีแล้ว แน่นอนว่าโอกาสในการได้รับการอนุมัติสินเชื่อบ้านของคุณ ก็ย่อมสูงลิบขึ้นยิ่งกว่าเดิม รวมทั้งมากกว่าผู้ที่มีเครดิตทางการเงินไม่ดีด้วยเช่นกัน

อัพเดตล่าสุด! ซื้อบ้าน ปี 2566 ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง? คลิก blog.sansiri.com/2023-house-buying-cost

Saransiri-สราญสิริ

ใครมีบ้านหรือคอนโดในฝันอยู่ในใจแล้ว รีบตามรอย 5 ขั้นตอนในการสร้างเครดิตทางการเงินที่ดี ให้ศึกชิงวงเงินกู้นี้ มีชัยยิ่งกว่าครึ่ง และให้การกู้ผ่านฉลุย จนได้บ้านหรือคอนโดมาครองง่ายๆ อย่างใจคิด

CONTRIBUTOR

Related Articles

มาตราการอสังหา 2567

วางแผนซื้อบ้านต้องรู้! มาตรการอสังหาฯ ปี 2567 ช่วยยังไงบ้าง?

สานฝันคนอยากมีบ้านกับมาตรการอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ ปี 2567  ที่ออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง วันนี้ เราจะมาพูดถึงมาตรการที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังจะวางแผนซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าโอนและจดจำนองที่อยู่อาศัย ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมจากการปลูกสร้างบ้าน (ล้านละหมื่น) หรือสินเชื่อบ้าน โดย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งรายละเอียดแต่ละมาตรการจะเป็นอย่างไร มาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ เริ่มจาก “มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567”

ค่าใช้จ่ายซื้อบ้าน 2566

อัพเดตล่าสุด! ซื้อบ้าน ปี 2567 ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

เก็บเงินมาได้สักพัก ถึงเวลาทำความฝัน “ซื้อบ้าน-คอนโด” ของตัวเองสักหลังให้เป็นความจริงสักที แต่ๆๆ ก่อนจะไปลุยคว้ามา ต้องมาเช็กความพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เราต้องเตรียมการกันก่อน วันนี้เรามาอัพเดทกันดีกว่า ในปี 2567 นี้ ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และที่สำคัญภาครัฐฯ มีมาตรการช่วยคนซื้ออสังหาริมทรัพย์อะไรหรือไม่อย่างไร พร้อมแล้วไปอัพเดทกันเลย! ค่าจองและทำสัญญา เป็นค่าใช้จ่ายก้อนแรกสำหรับวางมัดจำ ขึ้นอยู่แต่ละโครงการ ส่วนใหญ่บ้านจะแพงกว่าหลักหมื่นขึ้นไป

วางแผนยื่นภาษี ฉบับคนมีคู่...สมรส

วางแผนยื่นภาษี ฉบับคนมีคู่…สมรส

สมัยก่อนอยู่ตัวคนเดียว ทำอะไรคนเดียว ยื่นภาษีก็ทำได้เพียงแบบเดียว แต่ครั้นพอแต่งงานแล้ว มีคนอีกคนเข้ามาเป็นคู่ชีวิต มาแชร์สิ่งต่างๆ ในทุกๆ วัน ซื้อบ้านหลังอบอุ่นด้วยกัน แม้แต่การยื่นภาษีก็มีทางเลือกมากขึ้นด้วยเช่นกัน เดือนแห่งความรักเวียนมาถึงทั้งที แสนสิริเอาใจคนมีคู่(สมรส) ด้วยเรื่องราวที่คู่สมรสทุกคู่จะไม่รู้ไม่ได้! นั่นก็คือการยื่นภาษีในวันที่มีใครอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามาเป็นอีกครึ่งชีวิตของคุณแล้วนั่นเอง ยิ่งในช่วงมกราคม – มีนาคมแบบนี้ ยังเป็นช่วงการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีด้วยเช่นกัน ว่าแต่จะ “ยื่นแยกกัน”